แล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาเกม | เลอโนโวประเทศไทย
นักพัฒนาวิดีโอเกมต้องการฮาร์ดแวร์ระดับพรีเมียม ฉันกำลังพูดถึงสิ่งที่ดีที่สุด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าแล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาเกมจะต้องมีราคาแพง มันต้องมีคุณสมบัติที่ดีที่สุด (แม้ว่าปัจจัยทั้งสองอย่างไม่ต้องสงสัยมีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธ์กัน)
เมื่อทำงานในการพัฒนาเกม คุณต้องมีโปรเซสเซอร์ที่ยอดเยี่ยมและรวดเร็ว, RAM ที่เพียงพอ และ GPU แยกที่ยอดเยี่ยม (ไม่ใช่ GPU ในตัว)
เรามาพร้อมคำแนะนำแบบรับประทานได้ไม่อั้นสำหรับแล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาเกม เราจะให้รายละเอียดดีที่สุด ปัจจัยใดบ้างที่คุณควรพิจารณา และสิ่งที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องการในแล็ปท็อป
แล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับความเร็วในการประมวลผลที่ทรงพลัง
อย่างที่คุณอาจเดาได้ โปรเซสเซอร์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของแล็ปท็อป นักพัฒนาเกมต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีพลังในการทำงานแม้กระทั่งโปรแกรมที่ทรงพลังที่สุด ในขณะที่ผู้ใช้ทั่วไปส่วนใหญ่สามารถหลีกหนีจากการท่องเว็บบนเน็ตบุ๊กได้ แต่คุณต้องมีแล็ปท็อปที่มีพลังการประมวลผลเพียงพอเพื่อรองรับความต้องการของแอพพลิเคชั่นการพัฒนาจำนวนมาก
นักพัฒนาเกมใช้โปรเซสเซอร์และซอฟต์แวร์ที่เน้นกราฟิกจำนวนมาก เช่น CAM และ CAD ดังนั้น แล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาเกมจึงมีโปรเซสเซอร์และการ์ดกราฟิกที่ดีที่สุด และสามารถจัดการกับงานที่ยากลำบากหลายอย่างได้อย่างง่ายดาย โปรเซสเซอร์ในอุดมคติมีหลายคอร์และกำลังประมวลผล (หรือความเร็วสัญญาณนาฬิกา) อย่างน้อย 3.5 GHz สำหรับนักพัฒนาเกม
ด้วยการประหยัดบนคลาวด์ การมีพื้นที่จัดเก็บในเครื่องจำนวนมากไม่สำคัญเหมือนเมื่อก่อน สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
SSD (โซลิดสเตตไดรฟ์) เป็นตัวเลือกยอดนิยมในปัจจุบันสำหรับการจัดเก็บ เนื่องจากมีน้ำหนักเบากว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า และเร็วกว่า HDD แบบหมุนทั่วไป (ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์) SSD นั้นเงียบกว่าและเชื่อถือได้มากกว่า HDD ทั่วไป
นักพัฒนาเกมหลายคนเลือกใช้ไดรฟ์คู่ ซึ่งเป็นทั้ง SSD และ HDD และได้ปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพ ขึ้นอยู่กับขนาดโครงการของคุณ นักพัฒนาเกมเริ่มต้นอาจไม่ต้องการไดรฟ์คู่ (ยัง)
แล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับกราฟิกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุดอีกประการสำหรับการพัฒนาเกมคือการ์ดกราฟิกหรือหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) มีสองตัวเลือกสำหรับกราฟิกการ์ด: GPU เฉพาะซึ่งไม่ขึ้นกับโปรเซสเซอร์หรือ GPU ในตัวซึ่งโปรเซสเซอร์ขับเคลื่อน
แม้ว่า GPU แบบบูรณาการเวอร์ชันล่าสุดจะค่อนข้างน่าประทับใจและสามารถจัดการกับส่วนแบ่งที่ยุติธรรมได้ แต่คุณจะต้องการ GPU เฉพาะ (หรือแยก) ในฐานะนักพัฒนาเกม GPU เฉพาะมี RAM ของตัวเองและไม่พึ่งพาโปรเซสเซอร์ ทำให้เร็วขึ้นและดีขึ้นสำหรับงานกราฟิกหนัก
ในฐานะนักพัฒนาเกม คุณน่าจะคุ้นเคยกับ RAM อยู่แล้ว แต่ในกรณีที่โปรแกรมที่คุณติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของคุณใช้ RAM มากเกินไป และต้องการพื้นที่ดิสก์เพียงพอเพื่อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
แล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาเกมมีโปรเซสเซอร์ที่ยอดเยี่ยมซึ่งมีหลายคอร์ พลังประมวลผล 2.4 GHz ขึ้นไป และ RAM อย่างน้อย 16 GB สำหรับโปรแกรมหนักทั้งหมด ผู้พัฒนาเกมส่วนใหญ่ต้องการ 32 GB เพื่อให้แน่ใจว่างานต่างๆ จะดำเนินไปอย่างราบรื่น
การพัฒนาเกมหมายถึงของเล่นมากมาย (จะไม่ทำได้อย่างไร) ตั้งแต่จอภาพเพิ่มเติม แท็บเล็ตกราฟิก ไปจนถึงปลั๊กอินการปรับเทียบสี คุณต้องมีพอร์ตเพียงพอสำหรับอุปกรณ์การพัฒนาเกมทั้งหมดของคุณ
แล็ปท็อปที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาเกมมีพอร์ตพื้นฐานทั้งหมด บวกกับคุณสมบัติพิเศษที่จำเป็นสำหรับการพัฒนา โดยมีพอร์ตสำรอง
อายุการใช้งานแบตเตอรี่เฉลี่ยอยู่ที่ 1-5 ชั่วโมง แต่แบตเตอรี่จะสูงกว่ามาก และคุณไม่ควรใช้เวลาน้อยกว่า 7 ชั่วโมง แล็ปท็อปที่ดีที่สุดมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่อย่างน้อย 10 ชั่วโมงขึ้นไป การเรียกใช้โปรแกรมที่หนักหน่วงจะทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของคุณหมดเร็ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องค้นหาเวิร์กสเตชันที่มีแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
นาฬิกาอัจฉริยะ Smart Watch สมาร์ทวอทช์ ราคาถูก | Online
ยุคโลกดิจิตอล หรือยุคแห่ง “สมาร์ทวอทช์ (Smart watch)” หรือที่หลายคนรู้จักกันในนามนาฬิกาอัจฉริยะ หรือนาฬิกาออกกำลังกาย (Fitness Tracker) ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ตอบโจทย์เรื่องเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย ดีไซน์แฟชั่นสวยงาม และฟังก์ชั่นครองใจคนรักสุขภาพ ในขณะเดียวกันปัจจุบันนี้ก็มีกระแสเทรนด์ออกกำลังกายควบคู่กันมาด้วยเช่นกัน จนเกิดการต่อยอดจากนาฬิกาดิจิตอล พัฒนามาเป็นนาฬิกาฟิตเนสนั่นเอง ดังนั้นสมาร์ทวอทช์หรือนาฬิกาออกกำลังกายที่ถูกอัดฟังก์ชั่นไว้อย่างครบครัน และครอบคลุมได้เกือบทุกความต้องการภายในเครื่องเดียว จึงสามารถทำงานเป็นได้ทั้งนาฬิกาดิจิตอลที่ทำงานแทนสมาร์ทโฟน และเป็นนาฬิกาเพื่อสุขภาพได้ในหนึ่งเดียว แต่หลายๆ ท่านอาจจะยังมีความสับสนว่าสมาร์ทวอทช์คืออะไร และทำงานอย่างไร HomePro จะมาบอกให้คุณได้เข้าใจกัน
สมาร์ทวอทช์ เป็นนาฬิกาข้อมือดิจิตอลที่สามารถประมวลผลการทำงานโดยการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนผ่านระบบบลูทูธนั่นเอง จากนั้นตัวเครื่องก็จะสามารถประมวลผลคำสั่งการใช้งานผ่านหน้าจอสัมผัสบนหน้าปัดนาฬิกาที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่น และแอพพลิเคชั่นใช้งานที่หลากหลาย แถมยังรองรับระบบปฏิบัติการต่างๆ ได้ เช่น ระบบ Android, ระบบ IOS, ระบบ Tizen หรือระบบ Windows เป็นต้น
สมาร์ทวอทช์ (Smart watch)มีคุณสมบัติการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การบอกเวลา การทำงานแทนโทรศัพท์ในการรับสายสนทนา หรือการเชคข้อความ รวมทั้งสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และอินเตอร์เน็ตเพื่อเล่นโซเชียลมีเดีย หรือดูแผนที่ GPS อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้เป็นนาฬิกาออกกำลังกายเพื่อเก็บข้อมูลสถิติการเดิน การวัดชีพจรขณะทำกิจกรรมออกกำลังกายต่างๆ นอกจากนี้สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ๆ ยังสามารถถ่ายรูป และทำอะไรที่ล้ำสมัยได้อีกมากมาย ฉะนั้นในการเลือกซื้อนาฬิกาอัจฉริยะก็ควรพิจารณาถึงไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตประจำวันว่าฟังก์ชั่นแบบไหนที่จำเป็นต้องใช้งานจริงๆ จึงจะได้ Smart watch ที่คุ้มค่าต่อการใช้งาน หากคุณต้องการแค่ใส่เพื่อความสวยงามล้ำสมัยตามแฟชั่น ก็สามารถเลือกรุ่นที่มีฟังก์ชั่นที่สามารถใช้งานเกี่ยวกับด้านสุขภาพได้ในเบื้องต้นก็เพียงพอแล้ว แต่หากคุณเป็นนักกีฬา หรือเป็นผู้ที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ การเลือกซื้อนาฬิกาฟิตเนส (Fitness Tracker) ก็ถือว่าเหมาะสมมาก เพราะนอกจากจะอัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นเรื่องของการวัดกิจกรรมออกกำลังกายต่างๆ แล้ว ยังถูกออกแบบมาให้มีความทนทาน และกันน้ำได้ระดับที่ลึกขึ้นพอสมควร
หากคุณกำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ (Smart watch) หรือนาฬิกาฟิตเนส (Fitness Tracker) สำหรับนำมาใส่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตประจำวัน และการออกกำลังกายของคุณ ก็สามารถแวะเข้ามาเลือกชมสินค้าได้ที่ HomePro ทุกสาขาทั่วประเทศใกล้บ้านคุณ หรือเลือกช้อปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ HomePro Online ศูนย์รวมเครื่องออกกำลังกายคุณภาพจากหลากหลายยี่ห้อชั้นนำ รวมถึงอุปกรณ์ฟิตเนสแบบครบวงจร ให้คุณได้เลือกช้อปปิ้งได้ง่ายๆ ในคลิ๊กเดียว พร้อมนำเสนอโปรโมชั่นสุดคุ้มและบริการจัดส่งเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับลูกค้าโฮมโปรทุกท่าน สามารถสอบถามรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ HomePro Call Center 1284
10 อันดับ นาฬิกาอัจฉริยะ ยี่ห้อไหนดี ปี 2022 รุ่นแนะนำ จาก Apple, Xiaomi
จุดประสงค์หลักของการสวมใส่ Smart Watch คือ การติดตามสุขภาพของตนเอง ดังนั้น หลายคนจึงมักจะไม่ถอด Smart Watch ออก เพื่อไม่ให้การวัดค่าและประมวลผลขาดความต่อเนื่อง แต่หากคุณต้องการสวมใส่นาฬิกาอัจฉริยะตลอดเวลา คุณจำเป็นต้องเลือกนาฬิกาที่สามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง
ซึ่งเราขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่กันน้ำได้ลึก 50 เมตรขึ้นไป หรือกันน้ำอยู่ที่ระดับ 5 ATM ขึ้นไปค่ะ เพราะประสิทธิภาพการกันน้ำระดับนี้จะช่วยให้คุณสามารถสวมใส่นาฬิกาอัจฉริยะระหว่างอาบน้ำหรือว่ายน้ำได้แบบสบาย ๆ เพียงแต่จะต้องระมัดระวังในการเล่นกีฬาทางน้ำบางชนิด อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ใช่สายเล่นกีฬาหนัก ๆ หรือไม่ค่อยได้ใส่มากนัก อาจจะเลือกระดับกันน้ำที่น้อยลงมาก็ได้เช่นกันค่ะ
Smart Watch มีช่วงราคาค่อนข้างกว้าง โดยจะมีตั้งแต่ราคาหลัก 1,000 - 10,000 บาท ซึ่งหลักหมื่นนั้นอาจเป็นหมื่นปลาย ๆ หากเป็นแบรนด์เนมระดับ Hi-End หรือมีฟังก์ชันที่ล้ำสมัยมาก ๆ เพราะโดยปกติแล้ว ความต่างของราคานั้นมีผลมาจากคุณสมบัติและดีไซน์เฉพาะตัวของแต่ละรุ่นนั่นเองค่ะ
แต่หากคุณกำลังมองหานาฬิกาอัจฉริยะหรือ Smart Watch ทั่วไป ไม่ได้ต้องการฟีเจอร์ใดเป็นพิเศษ เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการตั้งราคาหลัก 1,000 - 5,000 บาท เอาไว้ก่อน เพื่อกระชับกรอบสินค้าที่คุณต้องการชั่งใจในการเลือก โดยกรอบของราคาอาจต่ำกว่านี้ก็ได้เช่นกัน อีกทั้งในปัจจุบันมี Smart Watch ที่ราคาไม่เกิน 2,000 บาท วางจำหน่ายอยู่เป็นจำนวนมาก และฟังก์ชันก็ไม่น้อยหน้าตัวแพง ๆ เลยค่ะ
